วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563

“บิ๊กตู่” เตรียมลงชายแดนใต้ประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกของปี 63 ที่นราธิวาส

บิ๊ตู่” เตรียมลงชายแดนใต้ประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกของปี 63 ที่นราธิวาส


นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกของปี 63 ที่นราธิวาส มุ่งสร้างความเชื่อมั่นในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน


 


นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งที่ 1/2563 ระหว่างวันที่ 20-21 ม.ค. 2563 ที่ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 20 ม.ค. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปสักการะศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ และพบกับตัวแทนสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมฮกเกี้ยน สมาคมแต้จิ๋ว สมาคมแคระ และสมาคมไหหลำ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พร้อมพบประกับประชาชนและเยี่ยมชมนิทรรศการ ด้านสาธารณสุข ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP และการค้าออนไลน์ ช่วงบ่ายเดินทางต่อไปยังวัดประชุมชลธารา เพื่อเยี่ยมและพบปะประชาชนชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ก่อนจะเดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมพูดคุยกับผู้นำทางศาสนาและประชาชนไทยชาวมุสลิม
จากนั้นในวันที่ 21 ม.ค. ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานการประชุมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) จากนั้นจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อเสร็จการประชุมจะเดินทางกลับโดยจะถึงกรุงเทพมหานครในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเป้าหมายสำคัญในการลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามความก้าวหน้าในการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนและการค้าผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งส่งเสริมการขับเคลื่อนสังคมพหุวัฒนธรรม ภายใต้อัตลักษณ์ที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งเป็นเสน่ห์ของพี่น้องในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยรัฐบาลต้องการเห็นภาคใต้เป็นดินแดนแห่งการพัฒนาที่เต็มไปด้วยความสุขและความเจริญรุ่งเรือง.





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น